Everything about ไชน่าทาวน์ชะช่า

ส่วนสิ่งที่เป็นทั้งจุดเด่นและข้อสังเกตในเวลาเดียวกัน เห็นจะเป็นการออกแบบฉากแอ็กชันที่ผสมผสานมุกตลกขบขันออกมาได้ค่อนข้างลงตัว โดยเฉพาะพาร์ตตัวละครสามผู้เฒ่าอย่าง เซียนแปะ (จิ้ม ชวนชื่น), เซียนเล่า (นุ้ย เชิญยิ้ม) และ เซียนกวน (ธงธง มกจ๊ก) ที่เรียกได้ว่ารับ-ส่งมุกกันอย่างลื่นไหล จนส่งให้พวกเขาเป็นตัวละครแย่งซีนประจำเรื่อง แต่ขณะเดียวกันก็มีบางช่วงบางตอนที่ภาพยนตร์พยายามจะขยี้มุกตลกมากเกินไป จนทำให้มีช่วงที่ดูยืดเยื้อเกินจำเป็นไปสักหน่อย 

It seems like you had been misusing this attribute by likely as well rapid. You’ve been quickly blocked from utilizing it.

ส่วนพาร์ททางด้านการแสดงนั้น ถึงตัวหนังเรื่องนี้จะชูโรงความโดดเด่นให้ "อาเล็ก ธีรเดช" กับ "มิ้นท์ รัญชน์รวี" เป็นคู่พระนางตัวนำ แต่น่าเสียดายที่รูปร่างและการดีไซน์บทบาทของพวกเขาในหนังเรื่องนี้ค่อนข้างไร้เสน่ห์ แทบจะไม่สามารถขับตัวละครของพวกเขาออกมาได้ นอกจากจะเป็นเพียงการแสดงสวมบทบาทนั้น ๆ ในจบไป

กรณีศึกษาเวียดนาม กับนโยบาย ‘การทูตไผ่ลู่ลม’ ที่เปิดรับโลกกว้าง ไชน่าทาวน์ชะช่า ต้อนรับทุกขั้วอำนาจ

กล่าวคือภาพยนตร์ค่อนข้างมีเส้นเรื่องที่อยากนำเสนออยู่หลายเรื่องพอสมควร ทั้งเส้นเรื่องหลักของกี้ที่จู่ๆ ก็ย้อนเวลากลับมาเจอบรรพบุรุษของตัวเอง จนต้องเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งระหว่างพรรคกระทิงซู่และพรรคกิเลนซิ่ง ขณะเดียวกันก็มีเรื่องมิตรภาพของอาคุ้งและอาไถ่ ปมปัญหาของอาคุ้งและครอบครัว ไปจนถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอาคุ้งและเหล่าม่า 

ซึ่งแม้ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ แต่ดูเหมือนว่าทีมสร้างจะไม่ได้พาเข้าไปลงลึกเกี่ยวกับประเด็นใดประเด็นหนึ่งมากนัก จึงส่งผลให้ประเด็นเหล่านี้ถูกนำเสนอแบบผิวเผิน โดยเฉพาะเรื่องราวการแก้ไขอดีตและหาทางกลับบ้านของกี้ที่ภาพยนตร์ไม่ได้เผยให้เราเห็น ‘วิธีการ’ ในการแก้ไขปัญหาหรือการเปลี่ยนแปลงของตัวละครเท่าไรนัก อีกทั้งเมื่อภาพยนตร์ดำเนินมาถึงองก์สุดท้าย ทีมสร้างก็เลือกที่จะคลี่คลายปมปัญหาด้วยวิธีที่เรียบง่ายและรวดเร็ว จนทำให้เราไม่รู้สึกผูกพันหรือมีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครใดตัวละครหนึ่งเท่าที่ควร ไปจนถึงส่งผลให้ประเด็นที่ภาพยนตร์ต้องการนำเสนอไม่เฉียบคม

ขณะที่ทีมนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ก็เป็นไปตามเนื้อผ้าของหนังตลกแนวนี้ เพราะแทบจะยกทีมตลกคาเฟ่คนสนิทของผู้กำกับมาทั้งแผง ไม่ว่าจะเป็น "นุ้ย เชิญยิ้ม", "จิ้ม ชวนชื่น" หรือ "ธงธง มกจ๊ก" แท็กทีมกันมาสร้างสีสันและยิงมุก ทั้งที่ตลกและไม่ตลกปะปนกันไป พร้อมทั้งเล่านักแสดงรับเชิญที่มาเพียงแค่มีซีนความสนุก แบบเซอร์วิสแฟนหนังได้พึงพอใจตลอดทั้งเรื่อง

แต่กลายเป็นว่าสปอตไลต์ไปจับจ้องอยู่ที่ "มาร์ช จุฑาวุฒิ" แทน นับว่าเป็นอีกคนที่ค่อยข้างรับบทหนักและเป็นตัวละครเดินเรื่องที่สำคัญ การที่ต้องมารับบทชายในร่างหญิง แม้ว่าจะไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ แต่เขาก็ถ่ายทอดออกมาได้ในลักษณะเคอะเขินเป็นธรรมชาติอย่างน่าเอ็นดู ถือว่าเขาเป็นคาแรกเตอร์ที่มาช่วยแบกหนังเอาไว้อย่างหนักอึ้ง เป็นได้ทั้งมือขวาและยังมีเคมีความจิ้นที่เข้ากับนักแสดงชายด้วยกันเองได้สุดจึ้ง

องค์ประกอบงานสร้างของ ไชน่าทาวน์ ชะช่า ก็เป็นไปตามทุนที่ได้เลย โปรดักชันของหนังก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรสักเท่าไหร่ หนังมีความพีเรียดปะปนอยู่ แต่การสร้างแวดล้อมและฉากต่าง ๆ นั้นก็ยังดูไม่ค่อยสมจริงและกลมกลืนมากนัก แบบว่าพอถูไถไปได้ การทำบรรยากาศโดยรวมออกมายังไม่ค่อยมีมนต์ขลัง ซึ่งก็พยายามจะทำเป็นมองไม่เห็นและผ่าน ๆ ไปเช่นกัน

“เราสนิทกันมากครับ” พัคโบกอมพูดถึงประเด็นข่าวลือเรื่องการเดตกับแบซูจี

หนังสนุกดูแลชวนอมอยิ้ม และยังมี “อีสานซอมบี้”

เปิดรายชื่อคณะกรรมการตำรวจฯ ชี้ชะตา ‘พล.ต.อ. สุรเชษฐ์’ พ้นราชการตำรวจ

███████████████████ஜ۩۞۩ஜ███████████████████

ก่อนจะเริ่มละเลงรีวิว...ต้องขอสูดลมหายใจลึก ๆ สักฟอด เพราะการคัมแบ็กงานกำกับอีกหนในครั้งนี้ของลุงรงค์ ถือว่ายังคงรักษามาตรฐานความเป็นนักสร้างหนังของเขาไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย เทคนิคและจังหวะการหยอดมุก สร้างอารมณ์ให้กับคนดูยังแพรวพราวไม่มีเปลี่ยน เพียงแต่ว่ายุคสมัยที่เปลี่ยนไปเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว ต้องยอมรับว่าบางโทนและบางลีลาของลุงรงค์ก็ค่อนข้างจะตกยุคไปประมาณหนึ่งแล้วเช่นกัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *